(ข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้วันที่ 10 ต.ค. 53).....การปฏิบัติภารกิจของเรือหลวงปัตตานี ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย เน้นการลาดตระเวณคุ้มครองเรือสินค้า ในพื้นที่ที่ได้รับผิดชอบ ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองกำลังที่ 151 ที่แบ่งพื้นที่ให้แต่ละประเทศที่รับผิดชอบ ที่มีขนาดความกว้าง 20 ยาว 40 ไมล์ทะเล ซึ่งพื้นที่ที่เรือหลวงปัตตานีได้รับ คือกลางอ่าวเอเดนและเป็นพื้นที่สีแดง ที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดโจรสลัด...ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเรือปัตตานีต้องคุ้มครองเรือสินค้าและเรือประมงที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ ก่อนจะส่งมอบให้กับเรือรบของชาติอื่นๆ ที่รับผิดชอบในพื้นที่ถัดไป ร่วมกับการบินลาดตระเวณ เมื่อได้รับแจ้งว่าพบเรือต้องสงสัยว่าเป็นโจรสลัด แม้ว่าการออกลาดตระเวณเพียงครั้งแรก อีกทั้งยังอยู่ในพื้นที่สีแดง แต่ด้วยจากการทำงานที่ว่องไว มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ดี ทำให้ ซีทีเอฟ ชมเชยถึงการปฏิบัติงาน...เรือหลวงปัตตานียังให้ความคุ้มครอง เรือแคบปิตอล ดายกิ้น ซึ่งเป็นเรือลำเลียงยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย ไปยังเมื่อดาฟูร์ สาธารณรัฐซูดาน และเรือไพโอเนียร์ซี จากประเทศโบลต้า ไปพร้อมกันอีกด้วย ส่วนภารกิจต่อไปเืรือหลวงปัตตานีจะไปจอดประเทศจิบูตี ในวันที่ 12 ต.ค.53 เป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะออกไปลาดตระเวณในพื้นที่รับผิดชอบเดิม
www.thaidefense-news.blogspot.com/by sukom วัตถุประสงค์ของการเปิดบล็อกนี้ เพื่อการแบ่งปัน แลกเปลี่ยนข้อมูล-ความคิดเห็น รวมถึงเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข่าวคราว ความเป็นไปทางด้านการทหาร และ เทคโนโลยีด้านการทหาร แก่บุคคลที่สนใจและบุคคลทั่วไป
วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติภารกิจของเรือหลวงปัตตานี ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา
(ข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้วันที่ 10 ต.ค. 53).....การปฏิบัติภารกิจของเรือหลวงปัตตานี ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย เน้นการลาดตระเวณคุ้มครองเรือสินค้า ในพื้นที่ที่ได้รับผิดชอบ ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองกำลังที่ 151 ที่แบ่งพื้นที่ให้แต่ละประเทศที่รับผิดชอบ ที่มีขนาดความกว้าง 20 ยาว 40 ไมล์ทะเล ซึ่งพื้นที่ที่เรือหลวงปัตตานีได้รับ คือกลางอ่าวเอเดนและเป็นพื้นที่สีแดง ที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดโจรสลัด...ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเรือปัตตานีต้องคุ้มครองเรือสินค้าและเรือประมงที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ ก่อนจะส่งมอบให้กับเรือรบของชาติอื่นๆ ที่รับผิดชอบในพื้นที่ถัดไป ร่วมกับการบินลาดตระเวณ เมื่อได้รับแจ้งว่าพบเรือต้องสงสัยว่าเป็นโจรสลัด แม้ว่าการออกลาดตระเวณเพียงครั้งแรก อีกทั้งยังอยู่ในพื้นที่สีแดง แต่ด้วยจากการทำงานที่ว่องไว มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ดี ทำให้ ซีทีเอฟ ชมเชยถึงการปฏิบัติงาน...เรือหลวงปัตตานียังให้ความคุ้มครอง เรือแคบปิตอล ดายกิ้น ซึ่งเป็นเรือลำเลียงยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย ไปยังเมื่อดาฟูร์ สาธารณรัฐซูดาน และเรือไพโอเนียร์ซี จากประเทศโบลต้า ไปพร้อมกันอีกด้วย ส่วนภารกิจต่อไปเืรือหลวงปัตตานีจะไปจอดประเทศจิบูตี ในวันที่ 12 ต.ค.53 เป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะออกไปลาดตระเวณในพื้นที่รับผิดชอบเดิม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น