กองทัพเรือ มีแผนจัดหาเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง (ตกช.) จำนวน 10 ลำ เพื่อทดแทน เรือตรวจการณ์ชายฝั่งเดิม ที่ใช้ราชการมาเป็นเวลานาน และมีกำหนดที่จะปลดระวาง ประกอบด้วย เรือตรวจการณ์ชายฝั่งชุด เรือ ต.21 – ต.29 และชุดเรือ ต.211 - ต.212 ซึ่งเป็นเรือที่ได้รับการช่วยเหลือ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 – 2519 โดยก่อนหน้านี้ กองทัพเรือ ได้เคยว่าจ้าง บริษัทมาร์ซัน จำกัด ในการสร้างเรือ ตกช. แบบเดียวกันนี้มาแล้ว จำนวน 3 ลำ (ต.228 – ต.230) โดยได้ดำเนินการต่อแล้วเสร็จ และส่งมอบให้กองทัพเรือ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 ซึ่งสามารถปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี สำหรับเรือ ตกช. จำนวน 6 ลำ มีพิธีปล่อยเรือลงน้ำไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 โดยมี พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธาน และมี นางปรานี อารีนิจ เป็นสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำ ประกอบด้วยเรือ ต.232 เรือ ต.233 เรือ ต. 234 เรือ ต.235 เรือ ต. 236 และ เรือ ต. 237
กองทัพเรือ ได้ว่าจ้างให้ บริษัท มาร์ซัน จำกัด เป็นผู้ดำเนินการสร้างเรือ เพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือภายในประเทศ อีกทั้งยังเป็นการประหยัดงบประมาณมากกว่าการจัดหาจากต่างประเทศ โดยเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.232 – ต.237 จะเข้าประจำการในกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ มีภารกิจในการตรวจการณ์ สกัดกั้น ลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมทางทะเลและชายฝั่ง คุ้มครองเรือประมงและเรือพาณิชย์ ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติบริเวณชายฝั่งทะเลในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน รักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมาย รวมถึงการถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์
คุณลักษณะของเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต. 232 – ต.237
ขีดความสามารถปฏิบัติการรบ (Combat Capabilities) สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการบริเวณชายฝั่งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สามารถตรวจจับ ติดตามและพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ สามารถป้องกันตนเองจากเรือผิวน้ำและอากาศยานข้าศึกได้ตามสมรรถนะของอาวุธประจำเรือ สามารถปฏิบัติการทางเรืออย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติมได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง สามารถปฏิบัติงานได้ในสภาพทะเลไม่น้อยกว่า Sea State 2 สามารถตรวจค้นเรือที่ต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ และมีความสามารถการทรงตัวที่ดีในการบังคับเรือและบังคับเลี้ยวในการปฏิบัติงานที่ความเร็วสูง (Maneuverability)
คุณลักษณะทั่วไป (Ship System Performance)
ระวางขับน้ำเต็มที่โดยประมาณ 45 ตัน ขนาดของเรือ ความยาวตลอดลำ 21.40 เมตร ความกว้างสูงสุดของเรือ 5.56 เมตร ความลึกของเรือ (Molded Depth) 3.15 เมตร กินน้ำลึกตัวเรือ (Molded Draught) 1.05 เมตร ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่น้อยกว่า 30 นอต กำลังพลประจำเรือ 9 นาย สามารถปฏิบัติงานในทะเลได้ต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุง ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 350 ไมล์ทะเล ด้วยความเร็วเดินทางมัธยัสถ์ (15 นอต) ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ (Full Load Displacement) ขนาดและสัดส่วนของโครงสร้างตัวเรือได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากสมาคมต่อเรือ Det Norske Veritas (DNV) เครื่องจักรใหญ่ตราอักษร MAN รุ่น D2862 LE463 กำลังเครื่องยนต์ 1,029 kW ที่ 2,100 RPM พร้อมเพลาใบจักร จำนวน 2 เครื่อง เครื่องไฟฟ้าขนาด 32 kWe, 220 V AC. 1 Phase 50 Hz. จำนวน 2 เครื่อง ประกอบด้วย เครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Prime Mover) ตราอักษร PERKINS เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ตราอักษร MARATHON MAGNAPLUS เกียร์ทด ตราอักษร TWIN DISC ชนิด Intermediate Duty ขนาด Input Rating สูงสุดที่ 1,145 kW ที่ความเร็วรอบ 2,100 RPM จำนวน 2 ชุดเครื่อง ระบบเพลาใบจักรแบบ Fixed Pitch จำนวน 2 ชุด
อาวุธประจำเรือ
อาวุธปืนหลัก ปืนกลขนาด 20 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก ติดตั้งบริเวณหัวเรือ อาวุธปืนรอง ปืนกลขนาด .50 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิด 81 มิลลิเมตร ร่วมแกน จำนวน 1 กระบอก ติดตั้งบริเวณท้ายเรือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น