หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เรือหลวงจักรีนฤเบศร ซ่อมบำรุงตามวงรอบ

ภาพเรือหลวงจักรีนฤเบศร เข้าซ่อมบำรุงตามวงรอบในอู่แห้ง ที่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช
โดย วิทยุครอบครัวข่าว ส.ทร.FM106

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้เข้ารับการซ่อมทำตัวเรือใต้แนวน้ำและเหนือแนวน้ำ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช อ่าวจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นการซ่อมทำในอู่แห้งเป็นครั้งที่ 2 หลังจากได้เข้าประจำการในกองทัพเรือมาเป็นเวลา 15 ปี โดยการซ่อมทำในครั้งนี้มีระยะเวลาดำเนินการประมาณ 35 วัน สำหรับการเข้ารับการซ่อมทำของเรือหลวงจักรีนฤเบศร ในอู่แห้งครั้งนี้ มีการดำเนินการประกอบด้วย การลอกสี ทำสีตัวเรือทั้งใต้แนวน้ำและเหนือแนวน้ำ แยกเป็นการทำสีตัวเรือใต้แนวน้ำ 4, 000 ตารางเมตร การทำสีตัวเรือเหนือแนวน้ำ 3,200 ตารางเมตร และเสากระโดง 200ตารางเมตร การถอยเพลาใบจักรเพื่อเปลี่ยนอะไหล่ การซ่อมทำ / เปลี่ยน ลิ้นใต้แนวน้ำตามที่ต่างๆ ประมาณ 115 ตัว และ เปลี่ยนฉนวนหุ้มท่อน้ำชีลระบบทำความเย็น ประมาณ 50 ตำแหน่ง

อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช เป็น อู่เรือแห่งที่ 3 ของกองทัพเรือ โดยเป็นหน่วยขึ้นตรงของ กรมอู่ทหารเรือ ขึ้น ณ บริเวณอ่าวจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยอู่ดังกล่าว นับเป็นอู่เรือที่มีอู่แห้งขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพเรือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่ออู่เรือแห่งใหม่นี้ว่า อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช อันมีที่มาจากพระนามของ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ผู้ซึ่งทรงคุณประโยชน์ แก่กองทัพเรือ เป็นเอนกอนันต์ จนได้รับการถวายพระสมัญญาเป็น เจ้าฟ้าทหารเรือ ซึ่งกองทัพเรือ และข้าราชการตลอดจนกำลังพลกองทัพเรือทุกนายล้วนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และพร้อมใจกัน สร้าง พระราชา นุสาวรีย์ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อประดิษฐาน ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และได้รับพระมหาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทางประกอบพิธีเปิดพระราชานุสาวรีย์ ในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2554

อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ได้ดำเนินการสร้างจนแล้วเสร็จด้วยงบประมาณราว 4,000 ล้านบาท และสามารถปฏิบัติภารกิจอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 เป็นต้นมา โดยภายในพื้นที่กว่า 900 ไร่ ของอู่แห่งนี้ ประกอบด้วยส่วนสำคัญต่าง ๆ ประกอบด้วย อู่แห้งขนาดความกว้าง 40 เมตร ยาว 236 เมตร ลึก 18 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จำนวน 1 อู่ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นอู่เรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถซ่อมทำเรือที่มีระวางขับน้ำตั้งแต่ 5,000 ตัน ไปจนถึงขนาด 20,000 ตัน และมีความยาวเรือเกิน 120 เมตร ขึ้นไป ซึ่งสามารถซ่อมทำเรือขนาดใหญ่ที่กองทัพเรือมีเข้าประจำการในปัจจุบันรวมถึงที่กำลังจัดหาได้ทุกลำ นอกจากนั้นภายในอู่แห้งแห่งนี้ ยังมีการติดตั้ง Sectional Gate เพื่อให้สามารถปรับลดขนาดของอู่แห้งเพื่อให้สามารถนำเรือที่มีขนาดเล็กเข้ารับการซ่อมทำได้พร้อมกันครั้งละหลาย ๆ ลำ รวมถึงมีการติดตั้งเครนขนาด 75 ตัน จำนวน 2 เครน พร้อมเครื่องทุ่นแรงและระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เพื่อให้อู่แห่งนี้มีความพร้อมในการสนับสนุนกำลังทางเรือในการซ่อมบำรุงเพื่อสนองแนวพระราชดำรัสในการพึ่งพาตนเองทั้งในยามปกติและยามสงครามได้อย่างแท้จริง ขอบคุณข้อมูลจาก::น.ท.ยุทธเศรษฐ วังกานนท์ ร.น. นายทหารประสานการประชาสัมพันธ์

ภาพถ่ายมุมสูง เห็นทัศนียภาพโดยรอบของอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช อู่เรือที่มีอู่แห้งขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถซ่อมทำเรือที่เข้าประจำการในกองทัพเรือได้ทุกขนาด อันเป็นการพึ่งพาตนเอง

เปรียบเทียบใบจักรเรือหลวงจักรีนฤเบศรกับขนาดของรถยนต์

น้ำทะเลนอกอู่แห้ง ที่ถูกกั้นโดยประตูกั้นน้ำทะเล ของอู่แห้ง อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช

เทียบกันชัด ๆ ใบจักรเรือหลวงจักรีนฤเบศร กับขนาดของคนสูง 182 เซ็นติเมตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น