นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ข่าวสาร และการโพสต์รูปภาพของรถถัง OPLOT ทั้งในเว็บไซต์ thaidefense-news เอง และตามเว็บไซต์ทางทหารต่างๆ ซึ่งก็ทำให้ทราบว่ามีผู้ให้ความสนใจอยู่มากพอสมควร โดยสิ่งที่มีการพูดคุยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรถถัง OPLOT เท่าที่ได้รับฟังมาพอจะสรุปได้ 4-5 ประเด็น ซึ่งประเด็นทั้งหมดล้วนเป็นข้อสงสัยทางด้านเทคนิค..
ข้อสงสัย : คุณภาพงานผลิต (งานเชื่อมประสานโลหะประกอบเป็นตัวรถ รอยเชื่อมดูหยาบ..)
ตอบ : เท่าที่เห็นคุณภาพงานผลิต รอยเชื่อมประสานแผ่นเกราะ และการประกอบตัวรถถัง ผมคิดว่าทางการยูเครนทำได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่สูงเนื่องด้วยขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและประสบการณ์การผลิตรถถังและยานเกราะประเภทต่างๆ ที่มีมาอย่างยาวนานของทางการยูเครน.. เชื่อถือได้
ข้อสงสัย : การออกแบบรถถัง
ตอบ : วิพากษ์วิจารณ์กันมากถึงรูปทรงหรือแบบดีไซน์ของรถถัง OPLOT ที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งเรื่องนี้นานาจิตตังครับ ว่ากันไม่ได้ แต่สำหรับมุมมองตามความชอบของผม ถ้าหากไม่ติดยึดกับแบบดีไซน์ของรถถังทางตะวันตกแล้วล่ะก็ ถ้ามองดีๆ แล้ว จะพบว่าแบบดีไซน์หรือรูปทรงของรถถัง OPLOT ดูสมาร์ทและเท่ห์มาก ผมว่าดูลงตัวนะเมื่อมองรวมไปถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพที่มีในรถถัง พูดถึงตรงนี้ก็คงจะมีบางคนมองผมว่า เป็นแฟนพันธ์แท้ของรถถัง OPLOT แน่ๆ.. ซึ่งผมก็ยอมรับว่าเป็นรถถังรุ่นหนึ่งที่ผมชอบ เอาล่ะก็ว่ากันไป ประเด็นที่ผมอยากจะบอกก็คือว่า ต้องเข้าใจว่ารถถังเป็นยุทโธปกรณ์ทางทหารที่มีวัตถุประสงค์ของการออกแบบมาเพื่อทำการรบ ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ อำนาจการยิง ความแม่นยำในการยิง ระบบป้องกันตัวเองที่เชื่อถือได้ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้มีอยู่ในรถถัง OPLOT แล้วทั้งหมด
ข้อสงสัย : รถถังมีอาการโยกขณะเคลื่อนที่
ตอบ : อีกประเด็นที่พูดกันมากคือ ทำไมรถถังมันมีอาการโยกขณะเคลื่อนที่ และเป็นห่วงถึงขนาดว่าพลประจำรถจะเมารถหรือเปล่า ปืนใหญ่รถถังจะยิงได้แม่นหรือเล็งยิงเกาะเป้าหมายได้ทันท่วงทีไหม_อย่าลืมนะครับว่า OPLOT เป็นรถถังยุคใหม่ ภายในรถถังจะมีระบบอุปกรณ์เครื่องช่วยต่างๆ ทำงานโดยอัตโนมัติ พลประจำรถถังมีหน้าที่ควบคุมและใช้งานมันเท่านั้นครับ
ข้อสงสัย : กระโปรงข้างไม่สวยงาม
ตอบ : มีอีกอย่างที่พูดถึงกันคือ กระโปรงข้างของรถถัง OPLOT ทำไมดูน่าเกลียด ดูไม่สวยเลย_ ก็กระโปรงข้างนั่นล่ะครับเป็นระบบเกราะป้องกันทางด้านข้างของรถถัง ซึ่งการป้องกันด้านข้างเป็นจุดอ่อนของรถถังทั่วไป แต่สำหรับ OPLOT เป็นรถถังรุ่นหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่ามีระบบการป้องกันทางด้านข้างที่ดีที่สุด เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ขอเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยเกี่่ยวกับระบบป้องกันตัวเองของรถถัง OPLOT ซึ่งระบบป้องกันประกอบด้วย เกราะหลักแบบแพสซีฟ (เกราะแบบไม่ระเบิด) และ เกราะปฏิกิริยาแรงระเบิดต่อต้านหัวรบเรียงกัน แบบใหม่ และ ระบบต่อต้านการตรวจการณ์ด้วยสายตาที่เรียกว่า “Varta”
ที่สามารถป้องกันการตรวจจับหรือการเล็งเกาะเป้าหมาย (Tracking) ด้วยแสงเลเซอร์
รวมถึงการมีระบบก่อกวนสัญญานคลื่นอินฟราเรด
ซึ่งนิยมใช้ในระบบอาวุธนาวิถีต่อสู้รถถังทั่วๆ ไปอีกด้วย
ซึ่งทำให้รถถังรุ่นนี้สามารถเพิ่มความอยู่รอดในสนามรบได้มากขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมีระบบป้องกันพิเศษอื่นๆ อีก ซึ่งจะยังไม่กล่าวถึง แต่โดยรวมแล้วระบบเหล่านี้จะทำให้รถถัง OPLOT ถือได้ว่าเป็นรถถังที่มีระบบป้องกันตัวที่ดีที่สุดแบบหนึ่งในโลก
ข้อสงสัย : กล้องพาโนรามิคมีขนาดใหญ่เกินไป
ตอบ : กล้องพาโนรามิค มีขนาดใหญ่เกินไปและจะเป็นอุปสรรคกีดขวางการหันของปืนรอง_ประเด็นนี้ผมขออธิบายอย่างนี้ก็แล้วกัน คือหน้าที่ของกล้องนี้สำหรับการใช้ตรวจการณ์ของผู้บังคับรถ "อุปกรณ์ทุกอย่างมันมีเหตุผลของการออกแบบ" ซึ่งถ้าหากอุปกรณ์มันทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี และใช้งานตรงตามความมุ่งหมายของการออกแบบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็เพียงพอแล้วครับ ส่วนประเด็นที่ว่ามันจะเป็นอุปสรรคต่อการยิงของปืนรองหรือเปล่า ก็ต้องมาดูว่าวัตถุประสงค์ของการมีปืนรองนั้นเพื่อทำหน้าที่อะไร และใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง ซึ่งคำตอบจะอยู่ที่คนออกแบบและผู้ใช้งานมันว่าเขามีความมุ่งหมายใด ในความคิดเห็นส่วนตัวผมว่าไม่มีปัญหาอะไร สรุปสุดท้ายด้วยประโยคนี้ครับ "อุปกรณ์ทุกอย่างมันมีเหตุผลของการออกแบบ"
ยังมีอีกคำถามครับ บางท่านได้กล่าวว่ารถถังรุ่นนี้เวลายิงกระสุนปืนใหญ่ไปแล้วจะต้องทำการหยุดรถให้นิ่งก่อน จึงจะสามารถบรรจุกระสุนปืนใหญ่นัดต่อไปได้ ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงเท็จประการใดครับ?
ตอบลบไม่เป็นความจริงครับ.. ระบบออโต้โหลดของรถถัง Oplot สามารถบรรจุกระสุนโดยไม่ต้องหยุดรถครับ วิิ่งไป+ยิงไป+บรรจุกระสุนใหม่และทำการยิงต่อเนื่องไปได้เลยในขณะที่รถยังวิ่งอยู่ ข่าวนี้ปรากฏออกมาจากสื่อใหญ่รายหนึ่ง ผมเคยคุยกับคนเขียนข่าวนี้ เขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง เพราะเนื้อข่าวบางตอนเขาไม่ได้เขียน แต่เขาก็บอกว่ามันสไตล์การนำเสนอข่าวของทางกอง บก.ของเขา ที่จะมีการนำข่าวเก่าในอดีตที่เกี่ยวข้องกันมาเป็นแบล็คกราวด์ด้วย สำหรับเรื่องนี้คนเขียนข่าว เขาก็บอกว่าจะนำเรื่องนี้ไปคุยกับทางกอง บก. คิดว่าในโอกาสต่อไปการนำเสนอข่าวของสำนักข่าวนี้ คงจะมีความถูกต้องมากขึ้น
ตอบลบขอบคุณครับที่ให้ความกระจ่าง ^^
ลบถ้าปืนรองเป็นปืน mini gun คงจะเจ่งน่าดูนะว่ามั้ย
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบเออ จริงเหรอครับเนี่ย
ตอบลบเพิ่มเติมนิดนึงครับ แม้ว่า ปากกระบอกปืนใหญ่หลักมันจะชี้ไปที่เป้าหมายตลอดเวลาก็ตามสำหรับ OplotM แต่ป้อมปืนรถถัง(turret) นั้นโยกตามการโยกของตัวรถครับ ซึ่งเป็นปกติของรถถังทุกๆรุ่น เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง
ตอบลบโดย:กูรู Z 1
ผมคิดว่าบทความนี้ยังไม่ใช่เป็นการพูดถึงข้อสงสัยทางเทคนิคอะไรนะครับ เพราะข้อมูลก็เป็นการบอกแบบกว้างๆ ไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดอะไร
ตอบลบประเด็นที่ 1 เรื่องกล้องบังตัวปืน อันนี้ต้องยอมรับว่ามันบังตัวปืนรองจริงๆ มันมีผลต่อการรบไหม? ต้องตอบว่า มีผล ในกรณีที่ข้าศึกอยู่ข้างหน้ารถถัง เพราะปืนรองแม้จะออกแบบมาเพื่อยิงอากาศยาน แต่ในสถานการณ์จริงการรบข้าศึกอาจมาหมอบอยู่ข้างหน้ารถถังก็ได้ ตรงนี้จะเป็นปัญหาครับ เพราะขนาดในคลิปโปรโมตข้างบน ตอนจะยิงยังต้องยิงหลบมุมกล้องเลย ลองไปดูรถถังตระกูล Leopard2 ดูครับ อันนั้นหนะออกแบบกล้องมาอย่างดีทีเดียวเลยเล็ก มีการหลบมุมต่างๆในตัวรถถัง ต้องยอมรับว่าคนเยอรมันคือมืออาชีพด้านยานยนต์จริงๆ
โดย:กูรู Z 1
- รายละเีอียดลึกๆ ยังคงไม่มีใครตอบได้ขนาดนั้นหรอกครับ บทความนี้ตอบพอให้เห็นเป็นแนวทางเท่้านั้น..
ลบ- เรื่องปืนรองนี่ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะเกี่ยวกับการใช้งาน อย่างเหตุการณ์ที่คุณสมมุติขึ้นในสถานการณ์รบ ผมก็ว่ามันเกิดขึ้นได้ยาก ในการรบจริงๆ ผมคิดว่าแม้ยุทโธปกรณ์จะได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรรณ์แบบเพียงไร การใช้งานจริงๆ มันอยู่ที่คนใช้มันนี่แหละ จะใช้ยุทโธปกรณ์เหล่านี้อย่างไร มันไม่ได้อยู่ที่ความสมบูรณ์แบบของยุทโธปกรณ์แต่เพียงอย่างเดียว ดังที่มีบทเรียนจากสงครามที่มีการใช้รถถังหลักเข้าทำการรบทั้งในอดีตและปัจจุบัน .. ประเ้ด็นเรื่องปืนรองสำหรับผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรสำหรับรถถัง OPLOT ซึ่งถ้าหากจะนำไปเปรียบเทียบกับรถถัง Leopard2 ก็ไม่น่าจะถูกต้อง เพราะการออกแบบที่แตกต่างกัน การวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ ก็ย่อมจะแตกต่างกันเป็นธรรมดา..
คงไม่ได้สับสนประเด็นใช่ไหมครับ
ลบคือระบบควบคุมการยิงและสเตบิไลเซอร์ รถถังทุกคันก็มีกันทั้งนั้นนะครับ ปืนใหญ่หลัก 120 หรือ 125 มม.ส่วนใหญ่มีระบบ Track เป้าหมายอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว อันนี้ไม่ขอพูดถึงนะครับเพราะมันธรรมดามาก
ไม่ธรรมดาล่ะครับ นั่นล่ะสำคัญ "ระบบควบคุมการยิง (ที่ดี) + สเตบิไลเซอร์"
ลบประเด็นที่ 2 เรื่องรถโยก รถถังไม่ควรจะโยกหรือโยกก็ควรจะโยกให้น้อยที่สุดในขณะเคลื่อนที่ ไม่ว่าในแนวราบหรือเคลื่อนไหวบนเนิน เพราะ สังเกตุว่าการโยกมันไม่ได้โยกเฉพาะช่วงล่าง ป้อมปืนรถถังด้านบนก็จะโยกด้วยตามความโยกของตัวรถช่วงล่าง ถ้า้สังเกตุรถถังตระกูล Leopard 2 จะค่อนข้างชัด รถถังเยอรมันนั่น ป้อมปืนด้านบนแทบไม่เคลื่อนไหวเลยคือน้อยมากๆเวลาเคลื่อนที่ผ่านเนิน นั้นเป็นเพราะความแน่นของตัวรถถังช่วงล่าง ซึ่งถามว่ามันมีผลกับการรบไหมก็ต้องตอบว่ามี เพราะปืนกลรองด้านบน จำเป็นต้องอาศัยความสมดุลในการเล็ง-ยิง ขณะเคลื่อนที่ หากศูนย์เล็งเสียไป จะมีโอกาสพลาดเป้าได้ในการยิงขณะเคลื่อนที่ แม้ว่าจะมีระบบติดตามเป้าโดยอัตโนมัติก็ตาม แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับรถถังที่มีความสมดุลในตัวมันเอง(เช่นตระกูล Leopard2) เพราะงั้นมันมีผลแน่นอนเพียงแต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับบริบทและข้อเท็จจริงในสถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้นครับ
ตอบลบโดย:กูรู Z 1
ทั้งปืนหลักและปืนรองของรถถัง OPLOT มันมีระบบควบคุมการยิงและสเตบิไลเซอร์ (stabilizers) ไม่ต้องห่วงเรื่องรถโยกหรอกครับ ถ้าหากคุณจะเปรียบเทียบประสิทธิภาพการยิงของรถถัง OPLOT กับ รถถัง Leopard2 ต้องลองหาข้อมูลที่เป็นในเชิงตัวเลขของค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วลองมาประัมวลดู ซึ่งคงจะได้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่ามันดีกว่าหรือด้อยกว่ากันหรือไม่เพียงไร..
ลบคือสำคัญว่า การโยกของรถถังนั้นนั้น ทำให้ปืนกลรอง และ Turret(ไม่ใช่ปากกระบอกปืนใหญ่นะครับ) มันโยกไปมากน้อยเช่นเดียวกับช่วงล่างที่โยกคลอนหรือไม่ นั้นแหละ คือส่วนที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพราะธรรมชาติของการออกแบบรถถัง Turret จะเคลื่อนไหวสมดุลหรือไม่ ส่วนหนึ่งอยู่ที่ช่วงล่างของรถถังเป็นสำคัญครับ ซึ่งผมไม่รู้ว่าปืน 12.7 มม.หรือปืนกลร่วมแกน ของรถถังแต่ละรุ่นนั้นมีระบบ Track เป้าหมายอยู่ตลอดเวลาหรือไม่ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีระบบดังกล่าว รถถังที่วิ่งแล้วโยกแยกก็มีโอกาสที่ปืนกลบนรถถังจะยิงแล้วกระสุนจะกระจายแทนที่จะรวมเป็นกลุ่มได้มากกว่ารถถังที่มีระบบแบบเดียวกัน แต่มีช่วงล่างกับ Turret ที่สมดุลอยู่ดีครับ พูดง่่ายๆก็คือปืนกลบนรถถังมีโอกาสยิงพลาดเป้าได้มากกว่า หากคิดว่าไม่ต่างกันลองวิเคราะห์เทียบกับรถถัง Leopard 2 แต่ละรุ่นก็ได้ครับ
ลบโดย:กูรู Z 1
เทคโนโลยีความก้าวหน้าของระบบควบคุมการยิง และระบบสเตบิไลเซอร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ชดเชยในสิ่งที่คุณคิดว่าจะมีปัญหาได้ทั้งหมด เชื่อผมเถอะว่าผู้ผลิตสร้างมัน เขาคงทดสอบทดลองระบบของเขาจนแน่ใจล่ะครับ ของแบบนี้มันหลอกกันไม่ได้นะครับ แต่สำหรับคนภายนอกอย่างพวกเรา ที่ไม่ได้มีโอกาสทดลองหรือสัมผัสกับมันจริงๆ ก็ต้องอาศัยข้อมูลที่พอจะหาได้จากที่ต่างๆ ที่มีการเผยแพร่ ซึ่งก็เป็นข้อมูลทั่วๆ ไป และจากข้อมูลที่มีเราก็นำมาเปรียบเทียบพิจารณา แล้วจึงนำมาอ้างอิง และพูดคุยแสดงความคิดเห็นกันตามเว็บต่างๆ แต่ข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้มันไม่มีคำตอบให้กับเราแบบร้อยเปอร์เซนต์นะครับ เพราะคนที่จะรู้ดีที่สุดก็คือคนที่สร้างมันขึ้นมาและคนที่ใช้งานมันเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็พอจะอนุมานได้ว่ามันดีมันด้อยอย่างไรตามข้อมูลดังกล่าวข้างต้น และเราต้องให้เครดิตกับผู้สร้างมันด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าผู้ผลิตรถถังหลักทั้งเยอรมัน และ ยูเครน ไม่ธรรมดาทั้งคู่ครับ..
ลบขนาดประเด็นที่นำเสนอไปนั้น ท่านยังจับไม่ได้เลยว่าผมพูดถึงเรื่องอะไร แต่ก็ยินดีที่ได้มาแสดงความเห็นใน Blog ของท่านครับ
ตอบลบโดย:กูรู Z 1
- ผมเข้าใจประเด็นที่คุณนำเสนอ.. เป็นประเด็นที่พูดกันไม่รู้จบ ถกกันทั้งใน thaifighterclub.org และ ใน TAF หรือในเว็บอื่นๆ วนเวียนกันอยู่กับประเด็นเิดิมๆ ใครเชื่ออย่างไรก็อย่างนั้น ถกกันไม่จบไม่สิ้น เป็นเพราะยังไม่มีใครจะรู้่อะไรจริงๆ เกี่ยวกับมันอย่างรอบด้าน ผมเน้นว่าอย่างรอบด้าน ทั้งด้านข้อมูลที่เกี่ยวกับรถถัง และความเข้าใจเกี่ยวกับการนำมันไปใช้งาน ซึ่งนี่ก็ลงลึกเข้าไปถึงระดับของกิจกรรมทางด้านการทหารที่จะต้องทำความเข้าใจและศึกษาอย่างจริงจัง ฉะนั้นผมจึงบอกกว่า ผู้สร้าง และผู้ที่ใช้งานมันเท่านั้นที่จะตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง
ลบ- ยินดีเช่นกันครับ..