www.thaidefense-news.blogspot.com/by sukom วัตถุประสงค์ของการเปิดบล็อกนี้ เพื่อการแบ่งปัน แลกเปลี่ยนข้อมูล-ความคิดเห็น รวมถึงเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข่าวคราว ความเป็นไปทางด้านการทหาร และ เทคโนโลยีด้านการทหาร แก่บุคคลที่สนใจและบุคคลทั่วไป
หน้าเว็บ
▼
วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
รถถังหลัก OPLOT "ป้อมปราการที่แข็งแกร่ง"
กล่าวนำ
ในช่วงที่รถถังหลัก OPLOT กำลังได้รับความสนใจจากหลายๆ ท่าน ที่กำลังติดตามอยู่ในขณะนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะไม่กล่าวถึงรถถัง OPLOT ในตอนนี้ ซึ่งมูลเหตุก็คือ มีหลายท่านอาจจะเคลือบแคลงสงสัยว่ารถถัง OPLOT ดีจริงหรือไม่ และคุ้มค่าหรือไม่กับการจัดหามาใช้งานหรือนำเข้ามาประจำการในกองทัพไทย โดยสิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้จะเป็นแนวทางสำหรับพิจารณาว่ารถถัง OPLOT มีดีอย่างไร ซึ่งก็รวมถึงใช้เป็นข้อพิจารณาสำหรับรถถังแบบอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
ผมจะไม่กล่าวลงในรายละเอียดข้อมูลที่เป็นเชิงตัวเลขในแบบตารางตัวเลข และค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ของรถถัง OPLOT ที่แสดงการเปรียบเทียบกับรถถังแบบอื่นๆ เพราะข้อมูลเหล่านี้ พวกเราสามารถหาดูได้จากหลายเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่กันอยู่แล้ว ในที่นี้ผมจะชี้ให้เห็นเฉพาะประเด็นข้อพิจารณาที่จะใช้เป็นหลักในการเปรียบเทียบเพื่อหาข้อดี ข้อด้อยของรถถังแต่ละแบบว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น
ป้อมปราการที่แข็งแกร่ง
OPLOT หมายถึง "ป้อมปราการ" เป็นรถถังหลักที่ผลิตจากประเทศยูเครน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติและประสบการณ์สำหรับการออกแบบสร้างรถถังมาอย่างยาวนาน รถถัง OPLOT มีคุณลักษณะครบทุกอย่างที่พึงจะมีสำหรับการเป็นรถถังยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจการยิงที่สูง ระบบการป้องกันตนเองที่เชื่อถือได้ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
จากการเปรียบเทียบข้อมูลสมรรถนะ และขีดความสามารถด้านต่างๆ ของรถถัง OPLOT กับรถถังชั้นแนวหน้าของโลก ที่หลายๆ คนบอกว่าดีที่สุดในโลก อาทิ รถถัง LEOPARD 2A7 หรือ รถถัง M1A2 ที่เป็นรุ่นล่าสุด จากข้อมูลที่หาได้จากแหล่งต่างๆ พบว่า รถถัง OPLOT นั้นมีสมรรถนะ และขีดความสามารถแทบจะไม่แตกต่างจากรถถังชั้นนำดังกล่าวเลย แต่รถถัง OPLOT มีราคาถูกกว่า.. เชื่อเถอะว่าเราได้ยุทโธปกรณ์ (รถถัง) ที่ดีที่สุดในราคาที่เราสามารถจ่ายได้มาป้องกันประเทศ
บางคนอาจจะไม่ชอบการออกแบบรถถังในสไตล์รัสเซีย โซเวียต ในที่นี้คือ ยูเครน มีข้อติตรงโน้น ตรงนี้บ้าง ซึ่งผมมองว่าเป็นความชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสมรรถนะหรือขีดความสามารถของมันที่จะนำไปใช้งานตามที่มันได้รับการออกแบบและสร้างมา ซึ่งมีความสำคัญมากกว่า โปรดอย่าลืมว่ารถถังก็คือยุทโธปกรณ์ที่ใช้เพื่อการรบ ยามเมื่อมันเข้าสู่สนามรบ และเมื่อเผชิญหน้ากับข้าศึก สิ่งที่จะต้องใช้ก็คือ สมรรถนะและขีดความสามารถของมัน บวกกับความชำนาญในการใช้งานมันของกำลังพล รวมทั้งยุทธวิธีที่ใช้ในการรบ เพื่อจะทำให้ได้รับชัยชนะ นี่ต่างหากที่เราจะต้องให้ความสำคัญ..
ปรัชญาการออกแบบที่แตกต่างกัน
การออกแบบรถถังทางฟากรัสเซีย โซเวียต (ยูเครน) มีความแตกต่างกับการออกแบบของทางฟากตะวันตกเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว โดยทางตะวันตกจะเน้นเกราะที่หนักและหนาเพื่อการป้องกันอำนาจการยิงทำลาย และระบบต่างๆ ที่เน้นใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ฉะนั้นจะสังเกตว่ารถถังหลักของทางตะวันตกโดยส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักมากกว่ารถถังของทางฟากรัสเซีย.. ที่เกราะจะบางกว่า น้ำหนักจึงเบากว่า เพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ จึงมีคำถามตามมาว่า งั้นการป้องกันตัวก็คงจะด้อยลงไป มองดูเผินๆ ก็อาจจะคิดว่าระบบการป้องกันตัวสู้รถถังทางตะวันตกไม่ได้ แต่ไม่เลย เพราะทางฝั่งร้สเซีย.. เขาเน้นการวิจัยและพัฒนา ทั้งเกราะหลัก เกราะเสริม และเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด เพื่อใช้ในการป้องกันรถถัง โดยเฉพาะรถถัง OPLOT ถูกออกแบบโดยเน้นระบบ "โมดูล่าร์" ช่วยให้การสับเปลี่ยนเกราะหรืออุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ทำได้ง่าย ซึ่งจะทำให้มีความอ่อนตัวมากกว่า ในการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของรถถัง สำหรับการสนองตอบต่อภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงพัฒนาไปไม่หยุดยั้ง *เมื่อพูดถึงระบบป้องกันตัวของรถถัง OPLOT จะมีทั้งระบบเชิงรุก และเชิงรับ อย่างครบถ้วน ซึ่งจะไม่ลงในรายละเอียดจะกล่าวไว้พอเป็นสังเขปเท่านั้น ส่วนคุณลักษณะอื่นๆ ของรถถังทางฟากรัสเซีย.. มีดังนี้
-เน้นอำนาจการยิง
-ความง่ายในการใช้งานและการซ่อมบำรุงรักษา
ข้อห่วงใยในการสนับสนุนชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับรถถัง OPLOT ของทางการยูเครน..
..สิ่งเหล่าจะต้องติดตามกันต่อไป แต่จากความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่กระทำในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันของฝ่ายความมั่นคงของทั้งสองประเทศ แสดงให้เห็นว่านี่เป็นพันธะสัญญาของความร่วมมือระหว่างชาติ ก็เชื่อมั่นได้ส่วนหนึ่งว่า ยุทโธปกรณ์ที่ทางเราได้จัดหามา จะได้รับการสนับสนุนด้านชิ้นส่วนอะไหล่หรือสายส่งกำลังบำรุงจากประเทศผู้ผลิตเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถใช้ยุทโธปกรณ์ไปได้อย่างยาวนานต่อไป และจะดีกว่าถ้าหากในความร่วมมือมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้เราสามารถดูแลยุทโธปกรณ์ที่จัดหามาได้ด้วยตัวเอง เป็นการพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืน ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไปถึงความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายว่าจะเป็นอย่างไร..
การเปรียบเทียบข้อดีและข้อด้อย ของรถถังแต่ละแบบ
การเปรียบเทียบควรจะนำข้อมูลสมรรถนะ และขีดความสามารถในด้านต่างๆ ของรถถังแต่ละแบบมาอย่างครบถ้วน เพื่อทำการเปรียบเทียบ จะทำให้สามารถประเมินได้อย่างถูกต้องมากขึ้นว่ารถถังแต่ละแบบมีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ข้อสรุปที่ได้จากการเปรียบเทียบจะต้องอยู่ภายใต้กรอบคำถามข้อหลักๆ ดังนี้
1. ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ของรถถัง
2. ความเชื่อถือได้ของระบบป้องกันตัวเองของรถถัง หรือ ความอยู่รอดในสนามรบ
3. อำนาจการยิงของรถถัง รวมถึงประสิทธิภาพของระบบควบคุมการยิงของรถถัง
เพราะฉะนั้นการจะเปรียบเทียบว่ารถถังแบบใดดีกว่าหรือด้อยกว่ากัน จึงต้องมาสรุปที่ข้อหลักดังกล่าวนี้ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้สำหรับเป็นข้อพิจารณา..
ผมทิ้งท้ายไว้สักนิดเกี่ยวกับรถถัง OPLOT ที่จะเป็นรถถังหลักแบบใหม่ของกองทัพบกไทย "รถถัง OPLOT มีคุณลักษณะครบทุกอย่างที่พึงจะมีสำหรับการเป็นรถถังยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจการยิงที่สูง ระบบการป้องกันตนเองที่เชื่อถือได้ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย" คุณลักษณะเหล่านี้ที่มีอยู่แล้วอย่างครบถ้วนในรถถัง OPLOT ทำให้มันเปรียบประดุจดัง ป้อมปราการที่แข็งแกร่ง ที่พร้อมสำหรับการทำหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ
รถถังฝ่ายไหนผลิตและส่งไปสนามรบได้เร็วกว่า ฝั่งนั้นคือผู้ชนะครับ ชอบสไตล์รัสเซียครับ ^^
ตอบลบผมคิดอยู่อย่าง1 ถ้าเราทำเกราะแบบขนเม่น ทิ่มยาวออกมาเป็นเข็มๆสัก1ฟุต ครึ่งฟุตรอบคัน จะป้องกันrpg29 ได้เปล่า มันน่าจะระเบิดข้างนอก หรือทิ่มแทงให้ลูกระเบิดเสียหายก่อนกระทบเกราะ
ตอบลบที่กลัวกันไม่ใช่แรงพุ่งกระแทกของหัวรบแต่กลัวกรวยลำความร้อน ที่สามารถหลอมเหลวเหล็กเกราะหนาๆในอานุภาพจรวดฆ่ารถถังรุ่นสองหัวรบซ้อนยากที่จะปราบได้หมดราบคาบด้วยวิธีง่ายๆ ขนาดยิวว่าเก่งๆเอาโซ่แขวน ทำตะแกรงใส่ของข้างๆยังหงายท้อง ป้อมปืนบินไม่เป็นท่ามาแล้ว....
ตอบลบ