กองทัพเรือ เตรียมการพิธีปล่อยเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ (OPV-552) เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ลำที่สอง ลงน้ำ ซึ่งกำหนดมีพิธีปล่อยเรือลงน้ำ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2562 นี้...
www.thaidefense-news.blogspot.com/by sukom วัตถุประสงค์ของการเปิดบล็อกนี้ เพื่อการแบ่งปัน แลกเปลี่ยนข้อมูล-ความคิดเห็น รวมถึงเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข่าวคราว ความเป็นไปทางด้านการทหาร และ เทคโนโลยีด้านการทหาร แก่บุคคลที่สนใจและบุคคลทั่วไป
หน้าเว็บ
▼
วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
สหรัฐฯ อนุมัติการขาย Stryker จำนวน 60 คัน ให้กับทางการไทย
WASHINGTON, July 26, 2019 - The State Department has made a determination approving a possible Foreign Military Sale to Thailand of 60 Stryker infantry carrier vehicles with equipment and support for an estimated cost of $175 million. The Defense Security Cooperation Agency delivered the required certification notifying Congress of this possible sale on July 26, 2019.
The Government of Thailand has requested to buy sixty (60) Stryker Infantry Carrier Vehicles (ICV); and sixty (60) M2 Flex .50 cal machine guns. Also included are spare parts, Basic Issue Items (BII), Components of End Items (COEI), Additional Authorized List (AAL) (specific items for operations and maintenance), Special Tools and Test Equipment (STTE), technical manuals, OCONUS Deprocessing Service, M6 smoke grenade launchers (4 per vehicle) and associated spares, AN/VAS-5 Driver's Vision Enhancer (DVE), AN/VIC-3 vehicle intercommunications system, contractor provided training and Field Service Representatives (FSR), and other related elements of logistics and program support. The total estimated program cost is $175 million.
This proposed sale will support the foreign policy and national security objectives of the United States by helping to improve security of a Major Non-NATO ally in INDO-PACOM, which is an important force for political stability and economic progress in the region.
The Stryker vehicles will increase Thailand's capability to defend its sovereign territory against traditional and non-traditional threats by filling the capability void between light infantry soldiers and heavy mechanized units. Thailand will have no difficulty absorbing this equipment into its armed forces.
The proposed sale of this equipment and support will not alter the basic military balance in the region.
The principal contractor for the Stryker vehicle is General Dynamics Land Systems, Sterling Heights, MI. There are no known offset agreements proposed in connection with this potential sale.
Implementation of this proposed sale will not require the assignment of any permanent additional U.S. Government or Contractor representatives to Thailand.
There will be no adverse impact on U.S. defense readiness as a result of this proposed sale.
This notice of a potential sale is required by law and does not mean the sale has been concluded.
All questions regarding this proposed Foreign Military Sale should be directed to the State Department's Bureau of Political Military Affairs, Office of Congressional and Public Affairs, pm-cpa@state.gov. /(DSCA)
The Government of Thailand has requested to buy sixty (60) Stryker Infantry Carrier Vehicles (ICV); and sixty (60) M2 Flex .50 cal machine guns. Also included are spare parts, Basic Issue Items (BII), Components of End Items (COEI), Additional Authorized List (AAL) (specific items for operations and maintenance), Special Tools and Test Equipment (STTE), technical manuals, OCONUS Deprocessing Service, M6 smoke grenade launchers (4 per vehicle) and associated spares, AN/VAS-5 Driver's Vision Enhancer (DVE), AN/VIC-3 vehicle intercommunications system, contractor provided training and Field Service Representatives (FSR), and other related elements of logistics and program support. The total estimated program cost is $175 million.
This proposed sale will support the foreign policy and national security objectives of the United States by helping to improve security of a Major Non-NATO ally in INDO-PACOM, which is an important force for political stability and economic progress in the region.
The Stryker vehicles will increase Thailand's capability to defend its sovereign territory against traditional and non-traditional threats by filling the capability void between light infantry soldiers and heavy mechanized units. Thailand will have no difficulty absorbing this equipment into its armed forces.
The proposed sale of this equipment and support will not alter the basic military balance in the region.
The principal contractor for the Stryker vehicle is General Dynamics Land Systems, Sterling Heights, MI. There are no known offset agreements proposed in connection with this potential sale.
Implementation of this proposed sale will not require the assignment of any permanent additional U.S. Government or Contractor representatives to Thailand.
There will be no adverse impact on U.S. defense readiness as a result of this proposed sale.
This notice of a potential sale is required by law and does not mean the sale has been concluded.
All questions regarding this proposed Foreign Military Sale should be directed to the State Department's Bureau of Political Military Affairs, Office of Congressional and Public Affairs, pm-cpa@state.gov. /(DSCA)
วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ออกทดลองเรือในทะเล
15 กรกฎาคม 2562 เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ (OPV-552) เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำที่สอง ได้ออกทดลองเรือในทะเล ณ บริเวณพื้นที่ทะเลอ่าวไทย เป็นครั้งแรก...
-------------------------------------------------------------
วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
สรุปการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๕ ...การพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วม ของ กองบัญชาการกองทัพไทย
สรุปการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๕ ...การพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วม (Joint Tactical Data Link) ของ กองบัญชาการกองทัพไทย ...เสริมสร้างหน่วยกำลังรบระดับกรมของกองทัพบก ให้เป็นหน่วยที่มีความกะทัดรัด ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ….
วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๕ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๒ โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น ๒ อาคาร ๑ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
การประชุมครั้งนี้ได้ประชุมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลและทบทวนการปฏิบัติงานของเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องดังต่อไปนี้
...การพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วม (Joint Tactical Data Link) ของ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมการสื่อสารทหาร ได้หารือร่วมกับเหล่าทัพ เพื่อบูรณาการและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วม ประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือต้องพัฒนาจากความต้องการทางยุทธการ และตอบสนองต่อการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ซึ่ง Platform ที่จะได้รับการติดตั้งหรือปรับปรุง จะต้องสามารถตอบสนองการปฏิบัติการร่วมและตอบสนองในเชิงเทคนิค รวมไปถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ นับได้ว่าอยู่บนพื้นฐานของหลักการพึ่งพาตนเอง เป็นการบูรณาการขีดความสามารถของกองทัพไทย เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการร่วมตามแนวคิดการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี กรอบแนวคิด Thailand 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติสืบไป
...การปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบ ของ กองทัพบก ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบ เพื่อใช้เป็นหน่วยต้นแบบในอนาคต โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างหน่วยกำลังรบระดับกรม ให้เป็นหน่วยที่มีความกะทัดรัด ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ได้พิจารณาเปรียบเทียบกับการจัดหน่วยแบบกองพลน้อยของสหรัฐฯ และออสเตรเลีย (Brigade Combat Team : BCT) โดยนำมาประยุกต์ให้มีความเหมาะสมกับกองทัพบก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำอัตราการจัดและยุทโธปกรณ์ของหน่วยดังกล่าวให้มีความสมบูรณ์ควบคู่ไปกับการพิจารณาจัดหายานเกราะที่เหมาะสมเข้าประจำการ เพื่อให้กองทัพบกมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจการป้องกันประเทศ รวมถึงภารกิจอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย
...การฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศของนักเรียนนายเรือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๒ ของ กองทัพเรือ ตลอดห้วงเวลาของการฝึกฯ ในภาพรวมเป็นไปตามหลักนิยมการใช้กำลังทางเรือที่มีลักษณะที่สำคัญคือ มีความคล่องตัว (Mobility) มีขีดความสามารถที่หลากหลาย (Versatility) และเป็นกำลังรบที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง (Expeditionary Force) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การฝึกผสมกับกองทัพเรือชาติเจ้าบ้านเมื่อหมู่เรือฯ เดินทางเข้าสู่น่านน้ำของชาตินั้นๆ หรือ Passing Exercise (PASSEX) การเยี่ยมคำนับบุคคลสำคัญทางทหารและพลเรือนของชาติเจ้าบ้าน และการแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับกองทัพเรือประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความรู้ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานบนเรือรบ ความเข้มแข็ง อดทน ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งเปิดโลกทัศน์ของนักเรียนนายเรือให้กว้างขวางขึ้น ดังถ้อยคำที่ว่า “Join The Navy To See The World” อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของกองทัพไทย และประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกองทัพเรือของมิตรประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและขีดความสามารถของกองทัพไทยให้กับนานาชาติให้ทราบอีกทางหนึ่งด้วย จึงนับได้ว่าเป็นการใช้กำลังอำนาจของชาติทางทะเล หรือ สมุทรทานุภาพ ให้บรรลุวัตถุประสงค์และตอบสนองนโยบายในการดำเนินการทูตทางเรือได้อย่างแท้จริง ขณะเดียวกันสามารถสานต่อภารกิจของกองทัพเรือในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ไว้ให้คนรุ่นหลังสืบไป
...การสนับสนุนการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ของ กองทัพอากาศ ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ติดตามและสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนกองทัพอากาศ หรือ ศตส.จชต.ทอ. เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ ๙ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ ดังนี้ “การใช้กำลังปฏิบัติการทางอากาศ” อาทิ เครื่องบินโจมตีธุรการ แบบที่ ๒ หรือ AU-23A เครื่องบินลาดตระเวนทางอากาศ การปฏิบัติการบินถ่ายทอดสัญญาณวิดีโอ และการบินลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศ “การใช้กำลังปฏิบัติการทางภาคพื้น” คือ การปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยพื้นที่เขตสนามบินและพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงสนับสนุนชุดค้นหาและทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ “การใช้กำลังปฏิบัติการตามกลยุทธ์” คือ การปฏิบัติภารกิจด้านการข่าว การต่อต้านข่าวกรอง และ “การปฏิบัติงานทางด้านกิจการพลเรือน” คือ การประชาสัมพันธ์ การปฏิบัติการจิตวิทยา การให้บริการและควบคุมการจราจรทางอากาศในเขตสนามบิน .. ภาพ-ข่าว กรมกิจการพลเรือนทหาร
/Sompong Nondhasa
วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๐.๐๐ น. พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๕ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๒ โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น ๒ อาคาร ๑ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
การประชุมครั้งนี้ได้ประชุมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลและทบทวนการปฏิบัติงานของเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องดังต่อไปนี้
...การพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วม (Joint Tactical Data Link) ของ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมการสื่อสารทหาร ได้หารือร่วมกับเหล่าทัพ เพื่อบูรณาการและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วม ประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือต้องพัฒนาจากความต้องการทางยุทธการ และตอบสนองต่อการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ซึ่ง Platform ที่จะได้รับการติดตั้งหรือปรับปรุง จะต้องสามารถตอบสนองการปฏิบัติการร่วมและตอบสนองในเชิงเทคนิค รวมไปถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ นับได้ว่าอยู่บนพื้นฐานของหลักการพึ่งพาตนเอง เป็นการบูรณาการขีดความสามารถของกองทัพไทย เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการร่วมตามแนวคิดการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี กรอบแนวคิด Thailand 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติสืบไป
...การปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบ ของ กองทัพบก ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างและเสริมสร้างหน่วยกำลังรบ เพื่อใช้เป็นหน่วยต้นแบบในอนาคต โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างหน่วยกำลังรบระดับกรม ให้เป็นหน่วยที่มีความกะทัดรัด ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ได้พิจารณาเปรียบเทียบกับการจัดหน่วยแบบกองพลน้อยของสหรัฐฯ และออสเตรเลีย (Brigade Combat Team : BCT) โดยนำมาประยุกต์ให้มีความเหมาะสมกับกองทัพบก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำอัตราการจัดและยุทโธปกรณ์ของหน่วยดังกล่าวให้มีความสมบูรณ์ควบคู่ไปกับการพิจารณาจัดหายานเกราะที่เหมาะสมเข้าประจำการ เพื่อให้กองทัพบกมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจการป้องกันประเทศ รวมถึงภารกิจอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย
...การฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศของนักเรียนนายเรือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๒ ของ กองทัพเรือ ตลอดห้วงเวลาของการฝึกฯ ในภาพรวมเป็นไปตามหลักนิยมการใช้กำลังทางเรือที่มีลักษณะที่สำคัญคือ มีความคล่องตัว (Mobility) มีขีดความสามารถที่หลากหลาย (Versatility) และเป็นกำลังรบที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง (Expeditionary Force) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การฝึกผสมกับกองทัพเรือชาติเจ้าบ้านเมื่อหมู่เรือฯ เดินทางเข้าสู่น่านน้ำของชาตินั้นๆ หรือ Passing Exercise (PASSEX) การเยี่ยมคำนับบุคคลสำคัญทางทหารและพลเรือนของชาติเจ้าบ้าน และการแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับกองทัพเรือประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความรู้ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานบนเรือรบ ความเข้มแข็ง อดทน ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งเปิดโลกทัศน์ของนักเรียนนายเรือให้กว้างขวางขึ้น ดังถ้อยคำที่ว่า “Join The Navy To See The World” อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของกองทัพไทย และประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกองทัพเรือของมิตรประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและขีดความสามารถของกองทัพไทยให้กับนานาชาติให้ทราบอีกทางหนึ่งด้วย จึงนับได้ว่าเป็นการใช้กำลังอำนาจของชาติทางทะเล หรือ สมุทรทานุภาพ ให้บรรลุวัตถุประสงค์และตอบสนองนโยบายในการดำเนินการทูตทางเรือได้อย่างแท้จริง ขณะเดียวกันสามารถสานต่อภารกิจของกองทัพเรือในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ไว้ให้คนรุ่นหลังสืบไป
...การสนับสนุนการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ของ กองทัพอากาศ ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ติดตามและสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนกองทัพอากาศ หรือ ศตส.จชต.ทอ. เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ ๙ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ ดังนี้ “การใช้กำลังปฏิบัติการทางอากาศ” อาทิ เครื่องบินโจมตีธุรการ แบบที่ ๒ หรือ AU-23A เครื่องบินลาดตระเวนทางอากาศ การปฏิบัติการบินถ่ายทอดสัญญาณวิดีโอ และการบินลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศ “การใช้กำลังปฏิบัติการทางภาคพื้น” คือ การปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยพื้นที่เขตสนามบินและพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงสนับสนุนชุดค้นหาและทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ “การใช้กำลังปฏิบัติการตามกลยุทธ์” คือ การปฏิบัติภารกิจด้านการข่าว การต่อต้านข่าวกรอง และ “การปฏิบัติงานทางด้านกิจการพลเรือน” คือ การประชาสัมพันธ์ การปฏิบัติการจิตวิทยา การให้บริการและควบคุมการจราจรทางอากาศในเขตสนามบิน .. ภาพ-ข่าว กรมกิจการพลเรือนทหาร
/Sompong Nondhasa