กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการเตรียมความพร้อมรับคณะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2560
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2560 พลเรือโท ภาณุ บุณยะวิโรจเสนาธิการกองเรือยุทธการ ตรวจความพร้อมในการซักซ้อมรับพลเอก สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2560 บน เรือหลวงจักรีนฤเบศรบริเวณอ่าวไทยตอนบน โดยมี พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอกพลเดช เจริญพูล รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2560 ให้การต้อนรับ ในวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2560
โดยห้วงเวลาตรวจเยี่ยมผู้บัญชาการทหารสูงสุดรับการยิงสลุตจำนวน 19 นัด จากเรือหลวงตากสิน และกล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลในกองอำนวยการฝึกกองทัพเรือ และหมู่ในทะเลประกอบด้วยเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงเจ้าพระยา และเรือหลวงอ่างทอง
จากนั้นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะฯ ชมการสาธิตการปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพเรือและกองทัพอากาศในห้องศูนย์ยุทธการ เรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งการสาธิตประกอบด้วย การป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองเรือ การสนับสนุนการโจมตีเรือผิวน้ำข้าศึกระยะไกล และการป้องกันภัยทางอากาศของกองเรือ ช่วงฝึกป้องกันภัยทางอากาศมีกำลังทางอากาศของกองทัพอากาศประกอบด้วย เครื่องบิน ทอ. JAS- 39(กริพเพน) 4 ลำ เครื่องบินตรวจการณ์ Saab 340 1 ลำ และF16 6 ลำ
ต่อมาผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะฯ ชม FLY BY ของเครื่องบินกองทัพอากาศ 2 เที่ยว ประกอบด้วย JAS- 39(กริพเพน) 4 ลำ เครื่องบินตรวจการณ์ Saab 340 1 ลำ และF16 8 ลำ บินเป็นหมู่ ต่อจากนั้นชมการสาธิตการสาธิตการปฏิบัจิการเรือหลวงจักรีนฤเบศร และเรือหลวงนเรศวร
การสาธิตการปฏิบัติการของเรือ พ.(ของหน่วยNavy Seal ) สาธิตการตรวจค้นค้นเรือประมงต้องสงสัยของศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโชชน์ของชาติทางทะเล(ศรชล.) โดยมีเรือของตำรวจน้ำเข้าร่วมด้วย ซึ่งมีกำลังที่ใช้ในการสาธิตตรวจประกอบด้วย เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง จำนวน 1 ลำ (Gun Boat) เรือประมง(เรือ กร. 03) / เรือสปีดโบ๊ต จำนวน 1 ลำ (เรือต้องสงสัย) เรือตำรวจน้ำจำนวน 1 ลำ (เรือตรวจค้น) และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ EC-645T2 จำนวน 1 เครื่อง พร้อมพลซุ่มยิง (Gun Ship)
สำหรับการตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2560 ของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือเป็นครั้งแรกและนับเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่มีผู้นำกองทัพมาตรวจเยี่ยมบนเรือหลวงจักรีนฤเบศร สืบเนื่องจากในปีนี้การฝึกกองทัพเรือได้บูรณาการกำลังของเหล่าทัพต่างๆ เข้าฝึกร่วมกัน เพื่อเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางทหารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อันจะเป็นหลักประกันให้ประจักษ์ต่อประชาชนในความเชื่อมั่นต่อกองทัพที่จะปกป้องพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของรัฐ กับทั้งปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และผลประโยชน์ของชาติ ให้เกิดความเสถียรภาพมั่นคงตลอดไป
ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
www.thaidefense-news.blogspot.com/by sukom วัตถุประสงค์ของการเปิดบล็อกนี้ เพื่อการแบ่งปัน แลกเปลี่ยนข้อมูล-ความคิดเห็น รวมถึงเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข่าวคราว ความเป็นไปทางด้านการทหาร และ เทคโนโลยีด้านการทหาร แก่บุคคลที่สนใจและบุคคลทั่วไป
หน้าเว็บ
▼
วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560
วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560
ข้อมูล กองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ
วันถือกำเนิด วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๖ กองทัพเรือ พิจารณาเปลี่ยนชื่อ
“กองเรือรบ” ซึ่งแต่เดิมประกอบด้วย เรือตามประเภท ๔ หมวดเรือ ได้แก่ หมวดเรือปืน
หมวดเรือใช้ตอร์ปิโด หมวดเรือช่วยรบ และหมวดเรือพระที่นั่งเป็น “กองเรือยุทธการ”
โดยรวมกิจการของหมวดเรือปืน และหมวดเรือใช้ตอร์ปิโด เป็นหน่วยเดียวกัน
ใช้ชื่อใหม่ว่า “กองเรือตรวจอ่าว”
กองเรือตรวจอ่าวจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมานับตั้งแต่บัดนั้น โดยมีเรือปืน
และเรือใช้ตอร์ปิโด เป็นเรือสองประเภทแรก ในสังกัดของกองเรือตรวจอ่าว
จนกระทั่งปัจจุบันกองเรือตรวจอ่าว มีเรือสี่ประเภท รวม ๒๑ ลำ ได้แก่
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เรือเร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถี เรือเร็วโจมตีปืน
และเรือตรวจการณ์ปืน
ภารกิจ ของกองเรือตรวจอ่าว
ปัจจุบันกองเรือตรวจอ่าว เป็นหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ
มีภารกิจในการจัดเตรียมกำลังสำหรับการปฏิบัติการรบผิวน้ำ
ซึ่งโดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
กองเรือตรวจอ่าวได้จัดเรือออกปฏิบัติราชการในหน่วยเฉพาะกิจต่าง ๆ ของกองทัพเรือ
ทั้งทะเลด้านอ่าวไทย และทะเลอันดามัน สนับสนุนการฝึกภาคทะเล ดังคำกล่าว
“ตลอด ๒๔ ชั่วโมง จะต้องมีธงราชนาวีของเรือในกองเรือตรวจอ่าวโบกสะบัดในท้องทะเลไทย”
ซึ่งหมายความว่าเรือของกองเรือตรวจอ่าวนั้นปฏิบัติราชการอยู่ในทัพเรือภาคที่
๑ , ทัพเรือภาคที่ ๒ , ทัพเรือภาคที่ ๓
คอยเฝ้าดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของกำลังพลทุกนายที่ได้ทำหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้
การจัดส่วนราชการ กองเรือตรวจอ่าว
๑.
กองบัญชาการ
มีหน้าที่กำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับการปฏิบัติของหน่วยตามที่ได้รับมอบหมาย มีหน่วยในบังคับบัญชา ๑ กอง ๗ แผนก ได้แก่ กองช่าง แผนกธุรการ แผนกกำลังพล แผนกยุทธการและการข่าว แผนกส่งกำลังบำรุง แผนกสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ แผนกพลาธิการ และ แผนกการเงิน
มีหน้าที่กำหนดนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับการปฏิบัติของหน่วยตามที่ได้รับมอบหมาย มีหน่วยในบังคับบัญชา ๑ กอง ๗ แผนก ได้แก่ กองช่าง แผนกธุรการ แผนกกำลังพล แผนกยุทธการและการข่าว แผนกส่งกำลังบำรุง แผนกสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ แผนกพลาธิการ และ แผนกการเงิน
๒.
กองร้อยกองบัญชาการ
มีหน้าที่สนับสนุนทางธุรการ การรักษาความปลอดภัย และ การบริการทั่วไปให้แก่กองบัญชาการ กองเรือตรวจอ่าว โดยมีหน่วยในบังคับบัญชา ๓ หน่วย ประกอบด้วย กองบังคับการกองร้อย หมวดบริการ และหมวดป้องกัน
มีหน้าที่สนับสนุนทางธุรการ การรักษาความปลอดภัย และ การบริการทั่วไปให้แก่กองบัญชาการ กองเรือตรวจอ่าว โดยมีหน่วยในบังคับบัญชา ๓ หน่วย ประกอบด้วย กองบังคับการกองร้อย หมวดบริการ และหมวดป้องกัน
๓.
หมวดเรือที่ ๑
ประกอบด้วยเรือจำนวน ๓ ลำ เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง (เรือ ตกก.) ได้แก่ ร.ล.กระบี่ ,ร.ล.ปัตตานี ,ร.ล.นราธิวาส
ประกอบด้วยเรือจำนวน ๓ ลำ เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง (เรือ ตกก.) ได้แก่ ร.ล.กระบี่ ,ร.ล.ปัตตานี ,ร.ล.นราธิวาส
๔. หมวดเรือที่ ๒
ประกอบด้วยเรือจำนวน ๙ ลำ เป็นเรือเร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถี (เรือ รจอ.) จำนวน ๓ ลำ และเรือเร็วโจมตีปืน (เรือ รจป.) จำนวน ๖ ลำ ได้แก่
๔.๑ เรือเร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถี ( เรือ รจอ. ) ร.ล.ราชฤทธิ์ ,ร.ล.วิทยาคม ,ร.ล.อุดมเดช
๔.๒ เรือเร็วโจมตีปืน (เรือ รจป.) ร.ล.ปราบปรปักษ์ ,ร.ล.หาญหักศัตรู ,ร.ล.สู้ไพรินทร์ ,ร.ล.ชลบุรี ,ร.ล.สงขลา ,ร.ล.ภูเก็ต
ประกอบด้วยเรือจำนวน ๙ ลำ เป็นเรือเร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถี (เรือ รจอ.) จำนวน ๓ ลำ และเรือเร็วโจมตีปืน (เรือ รจป.) จำนวน ๖ ลำ ได้แก่
๔.๑ เรือเร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถี ( เรือ รจอ. ) ร.ล.ราชฤทธิ์ ,ร.ล.วิทยาคม ,ร.ล.อุดมเดช
๔.๒ เรือเร็วโจมตีปืน (เรือ รจป.) ร.ล.ปราบปรปักษ์ ,ร.ล.หาญหักศัตรู ,ร.ล.สู้ไพรินทร์ ,ร.ล.ชลบุรี ,ร.ล.สงขลา ,ร.ล.ภูเก็ต
๕. หมวดเรือที่ ๓
ประกอบด้วยเรือจำนวน ๙ ลำ เป็นเรือตรวจการณ์ปืน ได้แก่ ร.ล. สัตหีบ ,ร.ล. คลองใหญ่ ,ร.ล. ตากใบ ,ร.ล.กันตัง ,ร.ล.เทพา ,ร.ล.ท้ายเหมือง ,ร.ล.หัวหิน ,ร.ล.แกลง ,ร.ล.ศรีราชา , ร.ล.แหลมสิงห์
ประกอบด้วยเรือจำนวน ๙ ลำ เป็นเรือตรวจการณ์ปืน ได้แก่ ร.ล. สัตหีบ ,ร.ล. คลองใหญ่ ,ร.ล. ตากใบ ,ร.ล.กันตัง ,ร.ล.เทพา ,ร.ล.ท้ายเหมือง ,ร.ล.หัวหิน ,ร.ล.แกลง ,ร.ล.ศรีราชา , ร.ล.แหลมสิงห์
ภารกิจที่สำคัญ
กองเรือตรวจอ่าวได้มีภารกิจที่สำคัญ ได้แก่
การฝึกองค์บุคคลและยุทธวิธีกองเรือตรวจอ่าว การฝึกร่วมกับกองเรือพร้อมปฏิบัติการ
การจัดเรือเข้าร่วมหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติการในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาลีย
นอกจากนั้นกองเรือตรวจอ่าวยังได้ดำเนินการจัดการความรู้ (Knowledge Management)
ตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อมุ่งหวังให้กองเรือตรวจอ่าว
เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่แท้จริง
และเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเน้นองค์ความรู้ที่มีความสำคัญต่อการปฏิบัติราชการของเรือในกองเรือตรวจอ่าว
เริ่มตั้งแต่เมื่อเรือปลดเชือกเส้นสุดท้ายจนเสร็จสิ้นภารกิจ
จึงได้ดำเนินการจัดการความรู้ใน ๓ องค์ความรู้หลัก ได้แก่
๑. องค์ความรู้ เรื่อง ระบบสนับสนุนการนำเรือและศูนย์ยุทธการ
๒. องค์ความรู้ เรื่อง ปืนหลักของกองเรือตรวจอ่าว
๓. องค์ความรู้ เรื่อง การผนึกน้ำ ป้องกันความเสียหาย
๑. องค์ความรู้ เรื่อง ระบบสนับสนุนการนำเรือและศูนย์ยุทธการ
๒. องค์ความรู้ เรื่อง ปืนหลักของกองเรือตรวจอ่าว
๓. องค์ความรู้ เรื่อง การผนึกน้ำ ป้องกันความเสียหาย
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้น กองเรือตรวจอ่าวได้ปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ
เพื่อปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ซึ่งปรากฏผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้ว ในอนาคตก็จะต้องมีการพัฒนา
และเพิ่มขีดความสามารถต่อไปตามเทคโนโลยีสมัยใหม่
เพื่อให้เป็นหน่วยที่มีความพร้อมรบและพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายได้ทั้งในยาสงบและในยามสงครามดังคำกล่าวที่ว่า “ยามสงบเราดั่งนกนางนวล
ข้าศึกรบกวนเราร้ายเยี่ยงฉลาม”
-------------------------------------------------------------------
วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560
ข้อมูล เรือดำน้ำชั้น Yuan
บทความเกี่ยวกับเรือดำน้ำชั้น Yuan ซึ่งนำเสนอข้อมูล ด้านคุณลักษณะของเรือ พร้อมทั้งวิเคราะห์ขีดความสามารถด้านต่างๆ ของเรือ<>บทความจาก: Essay: Inside the Design of China's Yuan-class Submarine - USNI News
ทั้งนี้เรือดำน้ำชั้น Yuan เป็นเรือชั้นเดียวกันกับ เรือดำน้ำ S26T ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางการจีนนำเสนอ สำหรับกองทัพเรือไทย โดยคาดว่าระบบอุปกรณ์บางอย่างที่ติดตั้งอยู่ในเรือดำน้ำ S26T ตามความต้องการของกองทัพเรือไทย จะมีความแตกต่างจากรุ่นพื้นฐานของจีนอยู่บ้าง..
He bases his conclusions on the Yuan’s “small” size, air-independent power (AIP) system, and long-range ASCM capability, which make it ideal to operate in shallow, coastal waters. While I wholeheartedly agree that the Type 039A/B is a fine anti-surface platform, the main points of the essay’s argument is based on a misunderstanding of largely inaccurate data. This rebuttal will examine the key points of the essay’s argument and show that the Type 039 A/B Yuan-class is, in fact, an open-ocean submarine designed to meet the needs of the PLAN’s near-seas active defense aspect of their maritime strategy, and not primarily a boat to operate in Taiwan’s coastal waters.
Yuan-Class Submarine Size
The assessment the Type 039A/B Yuan-class is a small submarine, designed to operate in the shallow littorals, is arguably the linchpin of the essay’s conclusion. A key point used in support of this position is a comparison of the Yuan-class with Japan’s Soryu-class, another AIP equipped submarine, where it is argued the Yuan is comparatively “far smaller.”In particular, Holst focuses in on the Soryu’s “draft” of 10.3 meters. This figure is highly suspect. When a submarine’s draft exceeds its beam, you might want to check your data. The 10.3-meter figure is not the draft of the Soryu class. Rather, it is the submarine’s “depth”— the vertical distance from its keel, to the top of the freeboard deck, measured at mid-length of the vessel. A submarine’s draft is included in its depth. A number of open sources list the Soryu’s draft as 8.5 meters, and a review of online photos of the fore and aft draft markings shows the draft as 8.3 meters, very close to the published value.
The description of the Type 039A/B Yuan-class submarine’s dimensions is also inaccurate. However, that reflects more the inadequacies of traditional Western sources that do not address PLAN platform and systems very well. In his essay, Holst specifically states, “PLAN naval architects deliberately maintained the Song-class’s size even with the installation of an AIP system.” While the author recognizes that trade-offs in the Type 039A/B Yuan design would have to be made, there is no attempt to suggest what they might have been. The author merely expresses his faith that the PLAN naval architects would have found a way to carve out the necessary space. This unqualified assertion is naïve at best.
Submarines are, by design, compact and severely limited in internal volume. One cannot just wave a magic wand and rearrange large propulsion plant components and squeeze out the considerable volume an AIP system requires. In particular, the cryogenic oxygen tank takes up a great deal of space—and the longer the submerged endurance, the bigger the tank. If the Song-class had that much spare volume to begin with, it would have been built smaller. There is no evidence the engineering spaces on a Song-class submarine have any extra unused volume. Video excerpts of the Type 039G show these submarines are just as cramped and constrained as one would expect. And since both the Song and Yuan use double-hull construction, a designer can’t even go after the fuel load, as the vast majority of the fuel is carried in tanks external to the pressure hull. Since the Yuan has an AIP system, it has to be bigger.
A review of Google Earth and hand-held photography indicates this is indeed the case. Google Earth imagery of both submarine classes berthed near each other shows the Yuan has a larger beam than the Song-class. This strongly argues that the sources that hold to the narrower beam of 7.5 meters for the Type 039G Song are probably closer to the truth. Furthermore, analysis of hand-held imagery indicates that the Yuan is not only longer, but also has a deeper draft than the Song-class.
Putting all of this together shows the Yuan is a large conventional submarine, only marginally smaller than a Soryu-class boat—on the order of 15 percent smaller. Perhaps a better comparison would be with the PLAN’s other large conventional submarine, the Russian-built Project 636 Kilo. That comparison shows the Yuan comes out as being slightly bigger than a late model Kilo. The table below lists the basic physical characteristics of the four submarines discussed in this article. Project 636 Kilo and Soryu-class data come from official sources, while Yuan and Song data are largely derived from the analysis mentioned above.
Thus, in stark contrast to the essay’s conclusion, the Type 039 A/B Yuan is not a small submarine at all. It is one of the largest conventional combat submarines in the PLAN inventory, and is no more maneuverable in shallow water than other large conventional submarine designs, such as the Kilo or Soryu-classes. If a navy truly wishes to invest in a “coastal submarine,” or SSC, then it would look at submarines like the German Type 205 and 206, and the North Korean Sango, all of which come in at less than 500 tons submerged displacement.
Project 636 Kilo | Type 039A/B Yuan | Type 039GSong | Soryu | |
Length Overall | 73.8 m | 77.6 m1 | 74.9 m | 84.0 m |
Beam | 9.9 m | 8.4 m | 7.5 m | 9.1 m |
Draft | 6.6 m | 6.7 m2 | 5.7 m4 | 8.3 m5 |
Surface Displacement | 2,350 tons | 2,725 tons3 | 1,727 tons | 2,947 tons |
Submerged Displacement | 3,125 tons | 3,600 tons | 2,286 tons | 4,100 tons |
Notes:
1) The often-quoted Type 039A/B length of 72 meters is waterline length, not length overall.
2) Type 039A/B draft is larger than the reported 5.5 meters that is nearly identical to the smaller Type 039G Song-class.
3) Yuan-class surfaced and submerged displacements come from Chinese language websites, of which there is some confusion on surface displacement. The value given on most Chinese websites (2,300 tons) would result in a reserve buoyancy of 50+ percent, which is not realistic. The estimated surface displacement in the table reflects a reserve buoyancy of 32 percent that is consistent with earlier Type 035 and 039G designs.
4) The reported 5.3-meter value for the Type 039G’s draft is suspect. Hand-held photos of this submarine in drydock suggest the draft is probably closer to 5.7 meters.
5) The draft of the Soryu-class is often listed as 8.5 meters, however, numerous photos of fore and aft draft markings show it is closer to 8.3 meters.
Shallow Water Environment
Designing a submarine to operate in very shallow water has other problems beyond just maneuvering. Holst correctly points out that the acoustic environment in coastal areas is chaotic and difficult, making it challenging for an antisubmarine platform to find a Yuan ensconced in such waters. But what is good for the gander is also good for the goose.Radiated noise from shipping is far louder, and even with multiple bounces off the bottom and sea surface, a lot of the acoustic energy will still reach a submerged submarine’s sonar. With shipping, biologic, and wave noise coming in from both near and far, a Yuan would be hard pressed to detect, track, and identify a target of interest; particularly as surface combatants tend to be quieter than civilian merchants. In other words, it will be very difficult to find and obtain an accurate fire control solution on a desired target without using a periscope to sort out the tactical picture. Doing so, however, would increase the submarine’s chances of being detected by radar or electro-optical sensors. Therefore, a submarine hugging the bottom in shallow coastal waters will be vexed by the same problem that an ASW ship has to deal with in looking for the submarine. But what is even more curious—if Chinese designers had intended from the very beginning for the Yuan-class to be a shallow water boat—why was a passive low frequency flank array put on these submarines?
The H/SQG-207 is a line of individual hydrophones mounted to the hull, and is designed to provide long-range detection against noisy ships—low frequency noise suffers lower absorption losses and travels further in water. The problem is this kind of array is most effective in deeper water where interference with the bottom is limited. Such an array would be severely degraded in very shallow water, offering little, if any benefit, beyond the capabilities of the medium frequency bow array. The fact that the H/SQG-207 array is on the Yuan-class argues strongly that its design operating areas are in deeper waters where this passive sonar can serve as the primary sensor.
PLAN Submarine Weaponry
Holst’s treatment of PLAN submarine weaponry shows it perpetuates a longstanding misunderstanding when it asserts that the Type 039A/B Yuan carries the C-802 ASCM. The fundamental problem with this is the C-802 is not a submarine-launched missile. In fact, the “C-802” designation is for an export surface, air, and land-based ASCM with a range of 120 kilometers, rather than the 180 kilometers stated in the essay. Of interest, there is no evidence the C802 was ever accepted by the PLAN. Lastly, it isn’t the same missile that the PLAN has fielded on the Type 039G, 039A/B, 091, and 093 submarines—the YJ-82. The YJ-82 is a solid-rocket propelled missile based on the YJ-8/8A ship-launched ASCM, but without the booster. The YJ-82 is launched in a buoyant capsule that is virtually identical to the U.S. submarine-launched Harpoon. Normally, the range of the YJ-8/8A is only 42 kilometers. But without the booster, the YJ-82’s range will be even less, possibly as short as 30 to 34 kilometers (16–18 nautical miles). This very short range means the launch will almost certainly be seen by its target, or an escort, as the missile will be within the radar horizon of most warships by the time it reaches ten meters in altitude. With such a short engagement range, the firing submarine’s location will be fixed quite quickly, with a counter-attack likely following shortly thereafter if a warship is nearby—flaming datums have a bad habit of attracting that sort of response. That is one of the key reasons why the PLAN submarine force is eagerly awaiting the fielding of the YJ-18, which reportedly has a maximum range of up to 220 kilometers.With respect to the authors the Department of Defense’s, 2015 Annual Report to Congress, the cited range of 290nm (550km) for the YJ-18 in (p. 10) is undoubtedly a typographic error. It is virtually impossible for a missile that is very likely smaller than the SS-N-27B Sizzler to have a range that is almost two and a half times greater. The ranges given in the 2015 report for the YJ-8A and YJ-62 are also incorrect and reflect a reliance on inaccurate open source information.
Then there is essay’s explicit claim that the Yuan was designed “primarily as an anti-ship cruise missile (ASCM) platform.” While IHS Jane’s applies the “G” to the designation of any vessel that can physically fire an ASCM, this doesn’t make the submarine “primarily” a cruise missile platform. The U.S. intelligence community, NATO, and Russian designation systems require a submarine to be fitted with dedicated launchers, not just the torpedo tubes, to be called a guided-missile submarine. That is why there is such a furious debate as to whether or not the new Type 093B or 095 will have a vertical launch system—perhaps as many as 16 tubes. This will clearly indicate when the cruise missile (both anti-ship and land attack) has eclipsed the torpedo as the submarine’s main weapon.
Another point of interest is that the weapons carried by the Type 039A/B Yuan are identical to those on the Type 039G Song, to include both the current YJ-82 and the future YJ-18 ASCMs. And yet, Holst makes no mention of the Song-class having the exact same weapons capability, both in terms of the number of torpedo tubes and weapons carried. The Type 039A/B Yuan-class will undoubtedly be the more effective ASCM platform; due to its enhanced sonar suite and the tactical flexibility provided by the AIP system, but in both instances the ASCM is a secondary weapon because of the small load out of missiles in the torpedo room, and the low salvo-size driven by torpedo tube limitations. If the Chinese continue to follow Russian tactical concepts, two of the six torpedo tubes will be loaded with YU-6 torpedoes for self-defense against an unexpected appearance by a submarine or surface ship. And while a salvo of four YJ-18 ASCMs is nothing to sneeze at, it is probably insufficient to overwhelm a modern warship’s hard and soft kill air defenses. The Mach 3 speed of the YJ-18’s sprint vehicle is impressive, and will seriously reduce a ship’s reaction time, but numbers are still needed to saturate todays modern air defense systems.
Conclusions
In sum, I believe Holst has drawn incorrect conclusions on the Type 039A/B Yuan submarine design basis because of inaccurate technical data and inadequate analysis. The Type 039A/B Yuan is a large submarine, particularly for a non-nuclear boat, and is comparable in size to Russia’s Kilo and Japan’s Soryu-classes. The sonar suite of the Yuan is tailored more for deep water where it can use the low frequency flank array to make long-range detections against noisy ships. The lack of a vertical launch system means the Yuan, and Song-class, are limited by the number of torpedo tubes that can be allocated to ASCMs; making it very hard to saturate a ship’s air defenses with only four, or at most five, missile salvos. And given the current short-ranged YJ-82 ASCM, a Type 039A/B Yuan-class submarine is better off attempting to close inside 15 kilometers and engaging the target with YU-6 torpedoes. But even after the introduction of the YJ-18, the restrictive factors of the torpedo room’s capacity and the small number of torpedo tubes remains. The PLAN appears to appreciate this constraint, as the discussion of future nuclear submarine designs having as many as 16 vertical launch tubes suggests.The design aspects of the Type 039A/B Yuan-class submarine point toward deep-water operating areas in the near seas, to include the approaches to Taiwan, where their improved sonar and AIP capabilities will aid the submarine in detecting, tracking, and engaging targets of interest. And while a Type 039A/B Yuan could soon be loaded with a more effective, long-range ASCM, the submarine’s design limitations will continue to rely heavily on the torpedo.
วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2560
กองทัพเรือ ลาดตระเวนร่วม ไทย-เวียดนาม
กองทัพเรือส่ง ร.ล.สุโขทัย (ทัพเรือภาคที่ 1) และ ร.ล.กระบี่ (ทัพเรือภาคที่ 2) ลาดตระเวนร่วมเส้นเขตแดนทางทะเล ไทย- เวียดนาม ร่วมกับกองทัพเรือเวียดนาม เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ และร่วมกันแก้ไขปัญหาพื้นที่เหลื่อมทับทางทะเลระหว่างกัน โดยในการลาดตระเวนร่วมในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 19-29 เม.ย.60
อนึ่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-เวียดนาม นั้นครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการของทั้ง ทัพเรือภาคที่ 1 และ ทัพเรือภาคที่ 2 ซึ่งแน่นอนว่าหากเราไม่มีกำลังรบทางเรือที่แข็งแกร่ง พื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว รวมทั้งระหว่าง ไทย-กัมพูชา // ไทย-มาเลเซีย // ไทย-พม่า อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นก็เป็นได้ครับ
ขอบคุณภาพและเรื่องราวจาก
ต้นหน ร.ล.กระบี่ และ ผู้ช่วยต้นปืน ร.ล.สุโขทัย
By Admin ต้นปืน561
ที่มา: Navy For Life
การฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศ นักเรียนนายเรือ ประจำปีการศึกษา 2559
ประมวลภาพกิจกรรม การฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศ นักเรียนนายเรือ ประจำปีการศึกษา 2559 :: ภาพกิจกรรม
- มฝ.นนร. จอดเรือเทียบท่าเรือนานาชาติคัมรานห์ เวียดนาม เมื่อวันที่ 14 เม.ย.60 ดูรายละเอียด
- มฝ.นนร. ออกเรือจาก ท่าเรือนานาชาติคัมรานห์ เวียดนาม ไปยัง ฐานทัพเรือสัตหีบ เวลา 09.00 น. วันที่ 18 เม.ย.60
- มฝ.นนร. ฝึกสถานีรบ และสถานีป้องกันความเสียหาย ระหว่างเรือเดินทางจาก คัมรานห์ เวียดนาม ไปยัง ฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.60